หลังจากที่ได้ฝากผลงานเพลงฮิต Pagtingin ที่มียอดสตรีมมิ่งมากกว่า100  ล้านครั้งผ่านทางช่องทางการฟังเพลงต่างๆทั้ง YouTube และ Spotify ในที่สุดวงก็ได้ฤกษ์ปล่อยซิงเกิ้ลอีกครั้งที่ชื่อว่า Lifetime เพลงบัลลาดที่ผสมผสานความเป็น folk-pop ที่เล่าถึงเรื่องราวความรักจากเรื่องจริง บอกเล่าโดย Anne Jou แฟนคลับของวง ผ่านทางกล่องความคิดเห็นของเพลง Pagtingin เธอกล่าวถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อเพื่อนสนิทคนหนึ่ง แต่ต้องเก็บซ่อนเอาไว้เพราะกลัวอีกฝ่ายจะรับรู้แล้วทำลายมิตรภาพที่มีต่อกัน

“แทนที่ฉันควรจะบอกความรู้สึกจริงๆของฉันไปให้เขารับรู้ แต่ฉันกลับเลือกที่จะเก็บซ่อนความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ แต่รู้ไหมว่าอะไรเกิดขึ้นหลังจากนั้น? มันค่อยๆมากขึ้นทุกวันๆจากความรู้สึกชอบ แปรเปลี่ยนมาเป็นความรัก และอัดอั้นตันใจจนนำมาร้อยเรียงผ่านบทกวีและบทเพลง ฉันปล่อยเวลาล่วงเลยไป 8 ปีก่อนจะมีโอกาสได้ไปเข้าร่วมงานแต่งงานของเขา แล้วก็พบว่าโชคชะตาเล่นตลกกับฉัน เขาขอบคุณฉันสำหรับการเป็นเพื่อนที่ดีเสมอมา และก่อนที่เขาจะพบกับเจ้าสาวของเขานั้น เขาเคยรักฉันมาก่อน รักมาตลอด 5 ปี แต่กลับเลือกที่จะเก็บความรู้สึกเหล่านั้นเอาไว้ เพราะกลัวว่าจะเสียฉันไป คำพูดเหล่านั้นทำให้ฉันนิ่งไปชั่วขณะ โกรธโชคชะตาที่ทำให้เราสองคนไม่กล้าที่จะเผยความในใจ โดยไม่รู้ว่า “ช่วงเวลาเหล่านั้น” กำลังรอเราสองคนอยู่ สำหรับใครที่อ่านอยู่นั้น ฉันไม่อยากให้คุณเสียใจกับอะไรเลย เพราะฉะนั้น ได้โปรดเผยความในใจของคุณออกมาก่อนที่มันจะสายเกินไป”

 
Ben&Ben ตัดสินใจนำคำสารภาพของ Anne มาร้อยเรียงเป็นบทเพลง เพื่อต้องการสื่อให้เห็นถึงความหมายของความรักที่บริสุทธิ์ผ่านมุมมองของพวกเขาในเพลงบัลลาดหวานซึ้งในซิงเกิ้ลใหม่ล่าสุดที่ชื่อว่า Lifetime

แม้ว่าจะไม่ใช่เรื่องง่ายในการผลิตผลงานเพลงผ่านช่วงวิกฤตการณ์นี้ แต่ Ben&Ben ใช้เวลาในช่วงกักตัวของพวกเขาถ่ายทอดบทเพลงด้วยเครื่องดนตรีและสตูดิโอซอฟต์แวร์เล็กๆในบ้าน จนกลายมาเป็น recording session ที่ใช้ชื่อว่า Lifetime หรือบทเพลงที่ถ่ายทอดความรู้สึกลึกซึ้งผ่านดนตรีบัลลาด ที่ฟังแล้วจะทำให้เราเกิดคำถามขึ้นมาในใจว่า “จะเกิดอะไรขึ้น หากเรารวบรวมความกล้าและยอมรับความรู้สึกที่มีต่อคนๆหนึ่ง โดยไม่ต้องสนใจว่าอีกฝ่ายจะคิดอย่างไร?”

Lifetime ได้sound engineer มากความสามารถอย่างJP Verona รวมไปถึง Mastering engineerอย่าง Leon Zervos (ผู้ฝากผลงานร่วมกับศิลปินมากมาย เช่น Pink, Rihanna, Maroon 5, Beastie Boys, and Willie Nelson) ถูกเรียบเรียงและประพันธ์โดย Miguel Benjamin, Paolo Benjamin และควบคุมการผลิตรวมไปถึงขับร้องโดย Ben&Ben