โค้ชโต่ย กำชับแข้ง ช้างศึก รักษาผลงานกับสโมสร ลุ้นลุยศึกคิงส์คัพ
ศิริศักดิ์ กำชับ 35 แข้ง "ช้างศึก" ให้รักษาผลงานที่ดีกับสโมสรต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสเป็น 23 คนสุดท้ายลุยคิงส์ คัพ
"โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ กำชับ 35 นักเตะ "ช้างศึก" ให้รักษาผลงานที่ดีกับสโมสรต่อไป เพื่อเพิ่มโอกาสติดเป็น 23 ผู้เล่นคนสุดท้าย ลุยศึกฟุตบอลคิงส์ คัพ
ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้ประกาศรายชื่อ 35 ผู้เล่น เพื่อเตรียมลงแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน "ช้างศึก" ได้เปิดเผยว่า "ผมและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชได้ติดตามดูฟอร์มการเล่นของผู้เล่นทุกคน และคัดเลือกผู้เล่นที่ทำงานได้โดดเด่นที่สุด 35 คน จากนั้นก็จะมีการติดตามดูฟอร์มผู้เล่นในเกมฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก, เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ และฟุตบอลถ้วย หากใครทำผลงานได้ดีก็มีโอกาสเป็นผู้เล่น 23 คนสุดท้ายที่จะลงเล่นในคิงส์ คัพ"
"ก็อยากให้ทุกคนมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ให้กับสโมสร และรักษาฟอร์มการเล่นให้ดี ส่วนนักเตะบางคนที่ไม่ติดทีมชุดนี้ ทั้ง ชินภัทร์ หรือ สุภโชค ก็จะไปเล่นให้ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของ กาม่า ที่จะมีลงอุ่นเครื่องในช่วงเดียวกัน"
"แม้ เมืองทองฯ จะทำผลงานในลีกได้ไม่ดีก็จริง แต่นักเตะ อย่าง สารัช และ มุ้ย มีประสบการณ์สูง และทำผลงานในทีมชาติได้ดี ตัวมุ้ยเองเราก็ให้เกียรติเขา เพราะหากลงเล่นในเกมกับ เวียดนาม ก็จะเป็นการลงสนามเกมที่ 100 พอดี"
"ครั้งนี้ผมอยากได้แชมป์ ดังนั้นผู้เล่นในทีมต้องมีประสบการณ์ในทีมชาติ ผสมผสานกับนักเตะรุ่นใหม่ ซึ่ง มุ้ย กับ ตังค์ ตอบโจทย์เรื่องประสบการณ์ได้ แต่หากเขาทำผลงานในสโมสรยังไม่ดีขึ้น ก็มีโอกาสหลุดจากทีมเช่นกัน อีกอย่างนักเตะที่เล่นในต่างประเทศก็กลับมาร่วมทีมทุกคน ผมจึงมั่นใจว่าเรามีความแข็งแกร่งพอสมควรครับ"
"ตอนแรกผมบอกกับ กาม่า ว่าจะเรียกผู้เล่นจากชุด U23 แค่คนเดียว ก็คือ ศุภชัย ใจเด็ด แต่ต้องยอมรับว่า ศุภณัฏฐ์ เขาเป็นผู้เล่นที่น่าสนใจ มีความกล้า และยิงประตูในไทยลีกได้แล้ว ผมคิดว่าน่าจะลองให้โอกาสดูครับ"
"การแข่งขันครั้งนี้ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะถ้วยรางวัลนี้มีความสำคัญมากกับนักกีฬาและชาวไทย แต่ก็ไม่ได้ประมาท และจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ"
สำหรับ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะติดตามเช็คฟอร์มการเล่นของนักเตะในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก และ M-150 แชมเปี้ยนชิพ ก่อนจะคัดเลือกนักกีฬา ให้เหลือ 23 คน ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เพื่อที่จะเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมในวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 และออกเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2562 ต่อไป
โดยการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ โดยแฟนฟุตบอลไทยทุกท่านสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่หน้าสนามแข่งขัน และช่องทางออนไลน์ที่ www.thaiticketmajor.com รวมถึงมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ส่วนสมาชิก CHANGSUEK MEMBER จะได้สิทธิพิเศษ ซื้อได้ก่อน 5 วันทำการ ตั้งแต่ 10 – 15 พฤษภาคม ทั้งระบบออนไลน์ และหน้าเคาน์เตอร์ พร้อมรับส่วนลด 5% ขณะที่บุคคลทั่วไป ซื้อได้ตั้งแต่ 16 พฤษภาคม ซึ่งจะมีการจัดจำหน่ายทั้งแบบรายวัน และแบบแพ็คเกจ โดยแฟนบอลที่ซื้อแบบแพ็คเกจจะได้รับส่วนลด 5% เช่นเดียวกัน
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 มีดังนี้
วันที่ 5 มิถุนายน 2562
ทีมชาติกือราเซา พบกับ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
ที่มา : FA Thailand
ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ได้ประกาศรายชื่อ 35 ผู้เล่น เพื่อเตรียมลงแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 ระหว่างวันที่ 5-8 มิถุนายน 2562 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ซึ่งหัวหน้าผู้ฝึกสอน "ช้างศึก" ได้เปิดเผยว่า "ผมและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชได้ติดตามดูฟอร์มการเล่นของผู้เล่นทุกคน และคัดเลือกผู้เล่นที่ทำงานได้โดดเด่นที่สุด 35 คน จากนั้นก็จะมีการติดตามดูฟอร์มผู้เล่นในเกมฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก, เอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ และฟุตบอลถ้วย หากใครทำผลงานได้ดีก็มีโอกาสเป็นผู้เล่น 23 คนสุดท้ายที่จะลงเล่นในคิงส์ คัพ"
"ก็อยากให้ทุกคนมุ่งมั่นในการทำหน้าที่ให้กับสโมสร และรักษาฟอร์มการเล่นให้ดี ส่วนนักเตะบางคนที่ไม่ติดทีมชุดนี้ ทั้ง ชินภัทร์ หรือ สุภโชค ก็จะไปเล่นให้ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ของ กาม่า ที่จะมีลงอุ่นเครื่องในช่วงเดียวกัน"
"แม้ เมืองทองฯ จะทำผลงานในลีกได้ไม่ดีก็จริง แต่นักเตะ อย่าง สารัช และ มุ้ย มีประสบการณ์สูง และทำผลงานในทีมชาติได้ดี ตัวมุ้ยเองเราก็ให้เกียรติเขา เพราะหากลงเล่นในเกมกับ เวียดนาม ก็จะเป็นการลงสนามเกมที่ 100 พอดี"
"ครั้งนี้ผมอยากได้แชมป์ ดังนั้นผู้เล่นในทีมต้องมีประสบการณ์ในทีมชาติ ผสมผสานกับนักเตะรุ่นใหม่ ซึ่ง มุ้ย กับ ตังค์ ตอบโจทย์เรื่องประสบการณ์ได้ แต่หากเขาทำผลงานในสโมสรยังไม่ดีขึ้น ก็มีโอกาสหลุดจากทีมเช่นกัน อีกอย่างนักเตะที่เล่นในต่างประเทศก็กลับมาร่วมทีมทุกคน ผมจึงมั่นใจว่าเรามีความแข็งแกร่งพอสมควรครับ"
"ตอนแรกผมบอกกับ กาม่า ว่าจะเรียกผู้เล่นจากชุด U23 แค่คนเดียว ก็คือ ศุภชัย ใจเด็ด แต่ต้องยอมรับว่า ศุภณัฏฐ์ เขาเป็นผู้เล่นที่น่าสนใจ มีความกล้า และยิงประตูในไทยลีกได้แล้ว ผมคิดว่าน่าจะลองให้โอกาสดูครับ"
"การแข่งขันครั้งนี้ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันคือคว้าแชมป์ให้ได้ เพราะถ้วยรางวัลนี้มีความสำคัญมากกับนักกีฬาและชาวไทย แต่ก็ไม่ได้ประมาท และจะพยายามทำให้ดีที่สุดครับ"
สำหรับ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย หัวหน้าผู้ฝึกสอและทีมงานสตาฟฟ์โค้ชทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะติดตามเช็คฟอร์มการเล่นของนักเตะในการแข่งขันฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก และ M-150 แชมเปี้ยนชิพ ก่อนจะคัดเลือกนักกีฬา ให้เหลือ 23 คน ในวันที่ 27 พฤษภาคม 2562 เพื่อที่จะเข้าแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมในวันที่ 30 พฤษภาคม 2562 และออกเดินทางไปจังหวัดบุรีรัมย์ ในวันที่ 2 มิถุนายน 2562 ต่อไป
โดยการแข่งขันฟุตบอลรายการชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 จะจัดขึ้นในวันที่ 5 และ 8 มิถุนายน 2562 ณ สนามช้าง อารีน่า จังหวัดบุรีรัมย์ โดยแฟนฟุตบอลไทยทุกท่านสามารถซื้อบัตรเข้าชมการแข่งขันได้ที่หน้าสนามแข่งขัน และช่องทางออนไลน์ที่ www.thaiticketmajor.com รวมถึงมีการถ่ายทอดสดผ่านทางไทยรัฐทีวี ช่อง 32
ส่วนสมาชิก CHANGSUEK MEMBER จะได้สิทธิพิเศษ ซื้อได้ก่อน 5 วันทำการ ตั้งแต่ 10 – 15 พฤษภาคม ทั้งระบบออนไลน์ และหน้าเคาน์เตอร์ พร้อมรับส่วนลด 5% ขณะที่บุคคลทั่วไป ซื้อได้ตั้งแต่ 16 พฤษภาคม ซึ่งจะมีการจัดจำหน่ายทั้งแบบรายวัน และแบบแพ็คเกจ โดยแฟนบอลที่ซื้อแบบแพ็คเกจจะได้รับส่วนลด 5% เช่นเดียวกัน
โปรแกรมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 47 มีดังนี้
วันที่ 5 มิถุนายน 2562
ทีมชาติกือราเซา พบกับ ทีมชาติอินเดีย ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
ทีมชาติไทย พบกับ ทีมชาติเวียดนาม ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
วันที่ 8 มิถุนายน 2562
คู่ชิงอันดับ 3 ที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 15.30 น.
คู่ชิงชนะเลิศที่สนาม ช้าง อารีนา เวลา 19.45 น.
ที่มา : FA Thailand