ชอว์น ปีเตอร์ ราอูล เมนเดส (Shawn Peter Raul Mendes)  หนุ่มมากควาสามารถที่เป็นไอดอลของวัยรุ่นทั่วโลก ชอว์น เกิดวันที่  8 สิงหาคม ค.ศ. 1998  เป็นนักร้อง นักแต่งเพลง และนายแบบชาวแคนาดา  เกิดในโตรอนโต ประเทศแคนาดา มีเชื้อสายอังกฤษ และ โปรตุเกส เติบโตในครอบครัวที่มีฐานะกลางๆ เขาเป็นลูกชายของคาเรน มีอาชีพเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ และมานูเอล เมนเดส เป็นนักธุรกิจ พ่อเขามีเชื้อสายโปรตุเกส ในขณะที่แม่ของเขาเป็นคนอังกฤษ  
 
ชอว์น เด็กหนุ่มที่เริ่มต้นอาชีพด้วยอายุเพียงแค่ 15 ได้กลายเป็นที่สนใจในปี 2013 โดยเริ่มจากการที่เขาโพสต์วิดีโอโคฟเวอร์เพลง  “As Long as You Love Me” ของศิลปินรุ่นพี่อย่างจัสติน บีเบอร์ ผ่าน VINE  มิวสิคแพลตฟอร์ม ทำให้เขาดังชั่วข้ามคืนมีผู้ติดตามกว่าหนึ่งล้านคนในเดือนแรกที่เริ่มอัดวิดีโอลงใน VINE  และหลังจากนั้น ฌอนเป็นที่สนใจของแอนดรูว์ เกิร์ตเลอร์ ผู้จัดการศิลปิน และซิกกี แชร์ตัน ฝ่ายคัดสรรและพัฒนาศิลปินของค่าย Island Record  จนทำให้ในที่สุดเขาก็ได้เซ็นสัญญากับค่ายดังกล่าว 
 

ชอว์น ปล่อยซิงเกิ้ลแรกในฐานะนักร้องกับเพลง “Life of the Party” ที่สามารถขึ้นสู่อันดับที่ 24 ในชาร์ตของ Billboard top 100 ส่งผลให้ตัวเขาเองเป็นศิลปินที่อายุน้อยที่สุดในการเปิดตัวเพลงเป็นครั้งแรกที่และติดอันดับใน Top 25 
 
ชอว์น ได้ปล่อยอัลบั้มที่ 3 ที่ใช้ชื่อตัวเองเป็นชื่ออัลบั้ม เมื่อเดือนพฤษภาคม 2561 อัลบั้มนี้สามารถเปิดตัวได้ในอันดับ 1 ของชาร์ต Billboard 200 album และอีกหลายชาร์ตทั่วโลก เช่น ออสเตรเลีย แคนนาดา เม็กซิโก เบลเยี่ยม ฮอลแลนด์ ฯลฯ และครองอันดับ 1 ชาร์ต iTunes ในกว่า 80 ประเทศทั่วโลกทันทีที่เปิดจำหน่าย อัลบั้มนี้กลายเป็น 1 ในอัลบั้มที่มียอดขายสูงสุดในวันเปิดจำหน่ายของปี 2561 และทำให้ฌอนกลายเป็นศิลปินที่มีอายุน้อยที่สุดอันดับที่ 3 ที่มีอัลบั้มติดอันดับ 1 ถึง 3 อัลบั้มติดต่อกัน 
 

ช่วงปลายปี 2561 ชอว์น ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล GRAMMY® ครั้งที่ 61 ใน 2 สาขา คือ “Song of the Year” (เพลงยอดเยี่ยมแห่งปี) จากเพลง “In My Blood” และ “Best Pop Vocal Album” (รางวัลอัลบั้มเพลงป็อปยอดเยี่ยม) จากอัลบั้ม Shawn Mendes ก่อนจะปล่อยอัลบั้มนี้ เขาได้ปล่อยซิงเกิ้ลออกมาหลายเพลง เช่น เพลง “Youth” Featuring Khalid, “In My Blood” และ “Lost In Japan” ทั้งเพลง “In My Blood” และ “Lost In Japan” ต่างประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยติดอันดับ 1 และ 2 ในชาร์ตรวมของ iTunes ในสหรัฐ, ติดท็อป 5 ในชาร์ต iTunes ในกว่า 50 ประเทศ และติดอันดับ 1 และ 2 ของเพลย์ลิสต์ “New Music Friday” ของ Spotify ทำให้ฌอนกลายเป็นศิลปินคนแรกที่มีซิงเกิลอันดับ 1 ที่ AC radio ถึง 4 เพลง ก่อนอายุ 20 ปี



ในเดือนเมษายน 2560 ชอว์น ปล่อยซิงเกิล “There’s Nothing Holdin’ Me Back.” ที่ได้รางวัลแพลตตินัมถึง 3 รางวัล เพลงนี้เป็นเพลงที่ 2 ของ ชอว์น ที่ติดอันดับ 1 ในชาร์ต Top 40 radio และ Billboard’s Pop Songs เพลงแรกที่ทำได้คือเพลง “Stitches.” ที่ได้รับรางวัลแพลตตินัม 7 รางวัล ตลอดชีวิตการทำงานของชอว์น เขามีอัลบั้มที่เปิดตัวที่อันดับ 1 ติดต่อกัน 3 อัลบั้ม อัลบั้มรางวัลแพลตตินัม 2 อัลบั้ม และซิงเกิ้ลที่ได้รับรางวัลแพลตตินัม 8 เพลง เขาทำยอดขายทั่วโลกไปมากกว่า 15 ล้านชุด และ 100 ล้านชุดสำหรับซิงเกิ้ล มียอดสตรีมเพลงมากกว่า 2 หมื่นล้านครั้ง และยอดวิวยูทูป 5 พันล้านวิว เวิล์ดทัวร์ 2 รอบของเขาก่อนหน้านี้ทำยอดขายบัตรไปได้มากกว่า 1 ล้านใบ รวมถึงการขายบัตรได้หมดในการจัดคอนเสิร์ตในสเตเดียมและอารีน่าระดับตำนาน เช่น เมดิสัน แสควร์ การ์เด้น ในนิวยอร์ก และ โอทู อารีน่าในลอนดอน ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ในทัวร์คอนเสิร์ต Shawn Mendes: The Tour ที่กำลังจะเกิดขึ้น บัตรคอนเสิร์ตเปิดทัวร์ที่จัดขึ้นที่ Rogers Centre ในเมืองโตรอนโต บ้านเกิดของเขา ก็จำหน่ายหมดในเวลาไม่กี่นาที
 


นอกจากนั้นเขายังได้รับเลือกให้ติดอันดับใน “21 Under 21” ของนิตยสาร Billboard ในปี 2560 และในปี 2561 เขาได้รับเลือกให้อยู่ใน “30 Under 30”  ของนิตยสาร Forbes และ “25 Under 25” ของ Spotify และ “Time 100 Most Influential” ของนิตยสาร Time Magazine เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 ROI Influencer Media ได้มอบตำแหน่ง  #1 Most Influential Artist  และ #1 Most Influential Teen ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทุกอย่าง