วงจันทร์ ไพโรจน์ มีชื่อเดิมว่า ดวงจันทร์ ไพโรจน์ เป็นนักร้องที่มีชื่อเสียงในอดีต ซึ่งได้บันทึกเสียงเอาไว้ทั้งสิ้นกว่า 100 เพลง ปัจจุบันได้ปิดฉากอาชีพนักร้องไปแล้วอย่างเป็นทางการ

ด้วยใจรักการร้องเพลง ในวัยเพียง 9 ขวบ ภายใต้การสนับสนุนจากครูมงคล อมาตยกุล เธอก็ได้ขึ้นแสดงความสามารถในด้านนี้โดยการประกวดร้องเพลงรำวงในงานวัดภูเขาทอง โดยใช้เพลงที่ชื่อว่า “ 8 นาฬิกา” ในการประกวด และได้รางวัลชนะเลิศ จนบริษัท ต.เง็กชวน เห็นแววจึงนำไปอัดแผ่นร้องเพลงเด็ก ร่วมกับนักร้องรุ่นราวคราวเดียวกันอย่าง นริศ อารีย์ และณรงค์ ธนะวังน้อย

การค้นพบความสามารถของตัวเองทางด้านการร้องเพลงที่ไพเราะจับใจ น้ำเสียงใสเย็นถึงขั้นเย็นยะเยือก แถมมีเอกลักษณ์ตรง "ลูกคอชั้นเดียว" ทำให้เธอได้มาร่วมเป็นสมาชิกของวงดนตรีมงคล อมาตยกุล หรือวงดนตรี ป.ชื่นประโยชน์ โดยวงนี้จะใช้ชื่อใดในสองชื่อนี้ ก็แล้วแต่จังหวะและโอกาส แต่นักดนตรีและนักร้องล้วนแล้วแต่เป็นชุดเดียวกันทั้งสิ้น โดยวงนี้เป็นการรวมตัวกันของครูมงคล กับเพื่อนๆ

วงจันทร์ ไพโรจน์ จึงเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังในปี 2500 จากผลงานเพลงที่บันทึกเสียงเป็นเพลงที่ 4 คือเพลง "ช่างร้ายเหลือ" ผลงานการประพันธ์ของครูมงคลที่บันทึกเสียงไว้ตั้งแต่เมื่อปี 2493 ขณะที่เธอมีอายุได้ 15 ปี ความดังของเพลงช่างร้ายเหลือทำให้ เพลงต่อๆมาที่เธอบันทึกเสียงในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่มีการปล่อยออกมาในภายหลังตามแนวการทยอยปล่อยเพลงของยุคนั้น ก็โด่งดังตามมาอีกหลายเพลง อย่างเช่น ชาตินี้ชาติเดียว แต่งโดย ครู ป. ,มารหัวใจ , สามหัวใจ และ ถึงร้ายก็รัก ซึ่งเพลงหลังนี้ก็ดังไม่แพ้เพลงช่างร้ายเหลือเลยทีเดียว เพลงนี้ประพันธ์เนื้อร้องโดยจำลอง เบญจานุวัตร ทำนองโดยครูมงคล เพลงนี้เป็นการขับร้องร่วมกัน 3 คนของวงจันทร์ ไพโรจน์, ลัดดา ศรีวรนันท์ และดวงตา ชื่นประโยชน์
 
วงจันทร์ ไพโรจน์ ยังได้ขับร้องเพลงดังอีกหลายเพลงจากฝีมือการประพันธ์ของครูเพลงชื่อดังแห่งยุคมากมาย เช่น "สาวสะอื้น " ของครูสมาน กาญจนะผลิน, " ไทรโยคแห่งความหลัง " ของครูนคร มงคลายน " เสียงสะอื้นจากสาวเหนือ " ของครูสุรพล สมบัติเจริญ ,แม่พิมพ์ของชาติ เพลงที่มีผลทำให้ผู้คนในยุคนั้นมากมายอยากจะเป็นครู ซึ่งประพันธ์โดยสุเทพ โชติสกุล (บางตำราบอก เทือกสกุล) , อุทยานดอกไม้ คำร้องโดยสกนธ์ มิตรานนท์ และทำนองโดย ชูศักดิ์ รัศมีโชติ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเพลงที่รวบรวมรายชื่อดอกไม้ไว้มากที่สุดคือ 49 ชนิด นอกจากนั้นก็ยังมีเพลง แน่แล้วหรือ ,ปรารถนาแห่งหัวใจ , เมินเสียเถิด , พิศวาสวาย , ร้ายจริงนะ สาวสันป่าตอง , สาวบ้านแพน , มนต์รักอารีดัง , สาวสะอื้น, น้ำตาสาวเหนือ, บุษบาเสี่ยงเทียน , หญิงคนชั่ว โดยเพลงส่วนใหญ่ของเธอมักเป็นเพลงเศร้า เข้ากับฉายานักร้องเสียงระทมของเธอ
 
และจากดอกกุหลาบมอญ ที่แฟนเพลงมอบให้ที่ชานชาลาสถานีรถไฟ ก็เป็นการจุดประกายแง่มุมชีวิตนักแต่งเพลงให้กับเธอด้วยงานเพลงชิ้นแรก “กุหลาบเวียงพิงค์ “ และเมื่อนับต่อเนื่องมากว่า 50 ปี จนถึงปัจจุบัน วงจันทร์ ไพโรจน์ ได้แต่งเพลงไว้มาก กว่า 100 เพลง