Bangkok Acoustic Guitar Celebration 2010 - สุนทรียศาสตร์ทางดนตรีชั้นเลิศของนักกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ระดับโลก

บันเทิง

จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้วสำหรับ งานมหกรรม Bangkok Acoustic Guitar Celebration ซึ่งปีที่แล้วก็ได้เสียงตอบรับจากแฟนๆ ดีเกินคาด จึงทำให้ต้องเกิดงานนี้ขึ้นมาใหม่ในปีนี้

จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 แล้วสำหรับ งานมหกรรม Bangkok Acoustic Guitar Celebration ซึ่งปีที่แล้วก็ได้เสียงตอบรับจากแฟนๆ ดีเกินคาด จึงทำให้ต้องเกิดงานนี้ขึ้นมาใหม่ในปีนี้ และหัวเรือใหญ่ที่เหล่านักเล่นกีตาร์อะคูสติกชาวไทยยอมรับก็ไม่ใช่ใครที่ไหน เขาก็คือ Tommy Emmanuel มือกีตาร์แนวฟิงเกอร์สไตล์ (Fingerstyle) อันดับหนึ่งของโลกนั่นเอง อาจจะบอกได้ว่าปีนี้เขาเป็นแนวหน้าของงานเลยก็ว่าได้ หรือหลายคนอาจจะสงสัยว่าคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นงานของ Tommy Emmanuel คนเดียวเลยหรือเปล่า  คำตอบคือ ไม่ใช่ซะทีเดียว เพราะงานนี้เป็นการรวมตัวของนักดนตรีที่มีใจรักทางด้านอะคูสติก แนวฟิงเกอร์สไตล์โดยเฉพาะ เพียงแต่มีการชักชวนเพื่อนร่วมวงการเดียวกัน เข้ามาแสดงฝีมือ ความสามารถให้พี่น้องชาวไทยยอมรับว่า กีตาร์โปร่งตัวเดียวก็สร้างสีสันทางดนตรีได้มากมาย

Bangkok Acoustic Guitar Celebration 2010  ปีนี้จัดขึ้นที่ เซ็นเตอร์พ้อย เพลย์เฮาส์ ชั้น 8 ห้างเซ็นทรัลเวิล์ด โดยปีนี้ นักดนตรีที่เข้ามาร่วมโชว์กีตาร์ระดับเทพนอกจาก Tommy Emmanuel แล้วก็ยังมี ทักษ์ เหล็กกล้า หรือ เดอะตู่ ฟิงเกอร์สไตล์ชาวไทย, Robert Uno พ่อมด ฟลาเมงโก, Sungha Jung หนุ่มน้อยชาวเกาหลีฝีมือฟ้าประทาน, Andy McKee กับเทคนิคการเล่นที่กินขาด

ก่อนหน้าที่จะมีคอนเสิร์ตเปิดมหกรรมฯ Tommy Emmanuel จะเปิด Workshop (13.00 – 15.30 น.) ให้กับผู้ที่สนใจเข้ารับฟังและร่วมกิจกรรมก่อนที่จะมีการแสดงของ ทักษ์ เหล็กกล้า และ Robert Uno (15.30 – 16.30 น.) ซึ่งงานนี้ก็ได้รับความสนใจจากแฟนๆฟิงเกอร์สไตล์เป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

จากนั้นก็จะเป็นช่วงของ Lobby Program ซึ่งจะจัดขั้น 2 ช่วง (16.30 – 17.30 น. และ 19.30 – 20.30 น.) โปรแกรมนี้แฟนเพลงและนักดนตรีให้ความสนใจเป็นอย่างดี เพราะเหมือนเป็นการเปิดโอกาสให้กับนักดนตรีรุ่นใหม่ได้แสดงศักยภาพทางการเล่นกีตาร์ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทางดนตรีที่ไร้ขอบเขต จากบุคคลทั้งรุ่นใหญ่และรุ่นเล็กที่อยู่ในวงการเดียวกัน

Sungha Jung ฝีมือเกินเด็ก ถึงตัวเล็ก แต่พรสวรรค์เจิดจรัส

ยอมรับเลยว่าครั้งแรกที่ดูเด็กคนนี้ ก็รู้สึกประทับใจกับฝีมือของเจ้าหนูเกาหลีนี่เสียเหลือเกิน แต่ก็ไม่ได้อึ้งซะจนคิดว่าจะดังเป็นพลุแตกขนาดนี้ ครั้งนั้นจำได้ว่าวิวของผู้ที่เข้ามาชมคลิปหลายๆคลิปเจ้าหนูนี่ไม่เกินพันด้วยซ้ำ และจำได้อีกว่าคลิปแรกที่ประทับใจจอร์จเลยก็คือเพลงประกอบหนังเรื่อง Mission Impossible ที่หลายคนคุ้นหู ตั้งแต่ปี 2008 จวบจนบัดเดี๋ยวนี้ หลายๆคลิปถูกเปิดมากกว่าร้อยล้านวิว ถือเป็นตัวเลขที่สูงมากๆ

แค่นับวิวผู้ชมและเปิดคลิปของหนูน้อยแดนโสม Sungha Jung ดู อาจจะยังไม่สะใจเท่ากับการได้เห็น Live ของเจ้าหนูนี่ และก็เป็นอย่างที่คิด 2 ปีต่อมาหลังจากที่ได้ชมคลิปไอ้หนูเทพจุติคนนี้ เวลาผ่านไปฝีมือและความสามารถเป็นที่ประจักษ์ เข้าตาคนดนตรีระดับโลกหลายท่าน อาทิ Trace Bundy, Ulli Bögershausen, Tomi Paldanius หรือแม้กระทั่ง David Foster รวมไปถึง Tommy Emmanuel ด้วย การแสดงครั้งนี้ของ Sungha Jung ที่กรุงเทพฯ ถือเป็นครั้งที่ 2 แล้ว ก่อนหน้านั้นเขาก็เคยเดินทางมาโชว์ในรายการเดียวกัน

ในรายการแสดง Sungha Jung เล่นไปประมาณ 10 เพลงเห็นจะได้ จากการนั่งชม Live ของเขา ทุกท่าทาง ทุกอากัปกิริยา ดูเหมือนว่าจะยังตื่นกับการแสดงเล็กน้อย แน่นอนล่ะว่าประสบการณ์บนเวทีที่มีผู้คนจับจ้องเป็นจำนวนมากยังมีไม่มากนัก แต่ฝีมือและทักษะการเล่นการันตีได้เลยว่าพรสวรรค์ล้วนๆ แถมไม่เป็นสองรองใครกับเด็กรุ่นเดียวกันเลย ส่วนเรื่องเพลงที่เขาเลือกมาเล่นจากที่ฟังจะเป็นเพลง Cover เสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น Beat it ของ Michael Jackson, I’m Yours ของJason Marz และอีกเพลงที่คุ้นหู Hotel California ของ The Eagles เสียดายที่ไม่ได้ยิน Wake Me Up for September Ends ของ Greenday ไม่งั้นมีกรี๊ดดด...ส่วนเพลงที่ไม่ค่อยจะคุ้นหูเท่าไหร่ก็น่าจะเป็นเพลงที่อยู่ในอัลบั้ม PERFECT BLUE อัลบั้มแรกในชีวิตของเขานั่นเอง

Sungha Jung เพิ่งฉลองวันเกิดครบรอบ 14 ปี ไปเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ไม่น่าเชื่อเลยว่า เด็ก 14 คนนี้จะมีความสามารถเกินตัวจนผู้ใหญ่บางคนอิจฉา (นั่นก็คือคนเขียนเอง) และรับประกันว่าอนาคตอันสดใสของเจ้าหนูบนวงการกีตาร์ต้องไปได้สวยแน่นอนหากยังตั้งใจฝึกซ้อมและหมั่นเก็บประสบการณ์จากผู้ใหญ่ชั้นยอดในวงการ

Andy McKee มือกีตาร์เทคนิคกินขาด เมื่อองค์ลงใครเลยจะสู้กับเขา

Andy McKee นี่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โด่งดังสุดขีดบน Youtube ในฐานะนักเล่นกีตาร์แนวฟิงเกอร์สไตล์ ด้วยลักษณะการเล่นที่มีเทคนิคแตกต่างจากนักกีตาร์รายอื่นๆออกไป รวมทั้งสำเนียงเมโลดี้ที่ถูกถ่ายทอดออกมาล้วนมีเสน่ห์น่าค้นหาทุกเพลง จากคลิปที่โด่งดังที่สุดอย่างเพลง Drifting ถ้าคุณหลับตาฟังคุณจะรู้สึกว่าเหมือนมีคนเล่นอยู่ 3 คน ทั้งเพอร์คัสชั่น กีตาร์ริทึ่ม และ กีตาร์โซโล่ และเชื่อเหลือเกินว่า อีกหลายๆเพลงที่เขาถ่ายทอดออกมาน่าจะบอกถึงความปราณีตในการทำงานทุกกระเบียดนิ้ว

สำหรับการโชว์ของเขา Andy ได้แสดงพลังของมือกีตาร์ฟิงเกอร์สไตล์ออกมาได้อย่างสุดยอด ปฏิกิริยาและไหวพริบ ลูกล่นอันแพรวพราว หรือกระทั่งการเปลี่ยนแปลงอารมณ์คนดูให้เข้าที่เข้าทางในทุกๆเพลง ถือได้ว่าเป็นมืออาชีพอย่างแท้จริง และนั่นเองก็ทำให้เขาได้ใจคนดูในคอนเสิร์ตครั้งนี้ไปในทุกๆเพลงเช่นกัน

ทั้ง  Drifting, Rylynn และอีกหลายเพลง รวมถึง  Africa เพลง Cover ของวงในตำนานอย่าง TOTO ได้ใจรุ่นใหญ่ไปเลย หลังจบเพลงนี้ผู้ใหญ่หลายท่านยืนขึ้นปรบมือ ก็คงไม่คิดล่ะว่าจะได้ยินเพลงนี้กันสดๆในเมืองไทยจากสำเนียงกีตาร์ของนักเล่นผู้ที่มีพรสวรรค์

ไม่น่าเชื่อว่าเพลงที่กล่าวไปและอีกเกือบ 10 เพลง ที่ Andy ได้บรรเลงให้ผู้ชมได้ฟังในคอนเสิร์ตวันนั้นจะทำให้บางคนหลงรักสำเนียงกีตาร์ของเขา ถึงขนาดช่วงพักเบรก ผู้ชมจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวรีบเดินออกไปจับจองเป็นเจ้าของซีดีด้านหน้า
ล็อบบี้ เห็นแบบนี้แล้วปลื้มใจแทนนักดนตรีจริง ซื้อของจริงดีกว่าดูดเป็นปลิงในอินเตอร์เนต

ปิดท้าย Bangkok Acoustic Guitar Celebration 2010 จาก Tommy Emmanuel ฟิงเกอร์สไตล์มือหนึ่งของโลก ยิ่งเล่น ยิ่งหลงรักดนตรีและกีตาร์ของเขา

ไม่ต้องสาธยายถึงฝีมือการเล่นของ Tommy Emmanuel ให้ผู้คนที่ฟังดนตรีในแบบฉบับของเขาให้มากความก็รู้ได้ทันทีถึงฝีมือ แต่สำหรับผู้ที่ยังไม่เคยฟังหรือไม่เคยได้ศึกษาค้นคว้า และหรือไม่เคยได้สัมผัสกับ Live ที่แสดงได้สุดคำบรรยายของเขา ก็บอกได้คำเดียวสั้นๆว่า Tommy Emmanuel คือมือหนึ่งของโลกในเรื่องกีตาร์ ฟิงเกอร์สไตล์

เกือบ 2 ชั่วโมงที่เขามาปิดท้ายรายการประจำปีนี้ Tommy ก็ไม่ทำให้ผู้ชมผิดหวังกับการแสดงสด ทั้งเรื่องของการเอ็นเตอร์เทนคนดู เรื่องของสไตล์การเล่นที่ไม่เคยบกพร่อง หรือแม้กระทั้งการให้เกียรติเพื่อนร่วมวงการด้วยการเชิญออกมาแจมกัน และค่ำคืนแห่งมหกรรมกีตาร์ครั้งนี้ Tommy เล่นไปกว่า 20 เพลงทั้งเพลงที่คุ้นหูและเพลงที่ร่วมบรรเลงกับเพื่อนๆ หรือจะเล่นไปด้วยร้องไปด้วย

ยกตัวอย่างเพลงที่เก็บรายละเอียดมาพอสมควรอย่าง Blue Moon เพลงนี้รู้สึกมีความสุขทุกครั้ง ฟังที่ไรเหมือนนั่งฟังเพลงแนวบูลส์อยู่ในผับแห่งหนึ่งในต่างประเทศ ไม่เพียงกีตาร์ตัวเดียวแต่เมื่อหลับตาพริ้ม เหมือนรู้สึกว่ามีดับเบิ้ลเบสมาคลอเคลียข้างกีตาร์เขาด้วย

Classical Gas เพลงนี้ออกตัวก่อนเลยว่าชอบเป็นการส่วนตัว เป็นสำเนียงคลาสสิคที่ผสมลูกเล่นแบบฟิงเกอร์สไตล์ไว้เยอะมาก ทั้งฮาร์โมนิคและสำเนียงอารมณ์ค่อนไปทางเม็กซิกันเล็กน้อยและได้กลิ่นแจ๊สผสมติดมาด้วย ไม่ว่าจะดูในแสดงสดไหนก็ตาม Tommy ก็ยังคงเล่นได้เหมือนเดิมไม่มีผิด

Smokey Mountain Lullaby เพลงนี้เหมือนมีกลิ่นอายความเป็นเอเชียอยู่พอตัว เมโลดี้ที่คิดขึ้นง่ายๆ (แต่ยากสำหรับคนอื่น) เป็นสิ่งที่ลงตัวที่สุดในเพลงนี้ ยิ่งได้ฟังในแสดงสดวันนั้นทำให้รู้ว่าเพลงนี้สามารถทำให้ความเหงาทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเข้าไปอีก คิดถึงกล่องดนตรีสมัยเด็กที่แม่เปิดให้ฟัง และเมื่อทุกตัวโน้ตออกจากปลายนิ้วของเขา ทุกคนสัมผัสได้ถึงสำเนียงเพลงที่เรียกได้ว่า เทพจุติกีตาร์ตัวจริง

Angelina ครั้งแรกที่ได้ยินเพลงนี้ก็หลงรักเข้าเต็มเปา และการได้มีโอกาสเข้าไปฟังสดๆ ก็ยิ่งทำให้เพลงนี้เป็นเพลงบรรเลงกีตาร์เพลงแรกที่จะทำลืมไม่ลง มันมีความไพเราะของมันเองจนไม่อยากจะบรรยาย เพียงแต่คุณต้องไปหามาฟังเท่านั้น ถึงจะเข้าใจในความสุขของหลายๆคนที่ได้มีโอกาสฟังมันแล้ว

Imagine ไม่น่าเชื่อว่าเพลงนี้จะเป็นอมตะจริงๆฟังกี่ครั้งก็คงยังเป็นเพลงที่สามารถดึงดูดความสนใจของหลายๆคนให้เข้าไปสู่ห้วงของผู้ที่เล่นได้เสมอ ก็ไม่รู้จะยกยอปอปั้นใครดีระหว่าง John Lennon และ Tommy Emmanuel คนแรกซึ่งเป็นผู้ที่แต่งเพลงนี้ขึ้นมาและครองใจคนทั่วโลกได้ คนที่สองก็เล่นกีตาร์ถ่ายทอดความเป็น John Lennon ในแบบฟิงเกอร์สไตล์ ออกมาได้อย่างน่าเชิดชู แต่ถ้าพูดถึงในคอนเสิร์ตแล้ว Tommy Emmanuel เขาเลือกเพลงนี้ออกมาให้เราได้รู้สึกหลงรักเขามากขึ้นไปอีก และก็ต้องขอบคุณ Lennon ผู้สร้างเพลงนี้ขึ้นมาบนโลกใบนี้

Imagine ไม่น่าเชื่อว่าเพลงนี้จะเป็นอมตะจริงๆฟังกี่ครั้งก็คงยังเป็นเพลงที่สามารถดึงดูดความสนใจของหลายๆคนให้เข้าไปสู่ห้วงของผู้ที่เล่นได้เสมอ ก็ไม่รู้จะยกยอปอปั้นใครดีระหว่าง John Lennon และ Tommy Emmanuel คนแรกซึ่งเป็นผู้ที่แต่งเพลงนี้ขึ้นมาและครองใจคนทั่วโลกได้ คนที่สองก็เล่นกีตาร์ถ่ายทอดความเป็น John Lennon ในแบบฟิงเกอร์สไตล์ ออกมาได้อย่างน่าเชิดชู แต่ถ้าพูดถึงในคอนเสิร์ตแล้ว Tommy Emmanuel เขาเลือกเพลงนี้ออกมาให้เราได้รู้สึกหลงรักเขามากขึ้นไปอีก และก็ต้องขอบคุณ Lennon ผู้สร้างเพลงนี้ขึ้นมาบนโลกใบนี้

มหกรรม Bangkok Acoustic Guitar Celebration 2010 ครั้งนี้ ถือได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง เพราะมีผู้ให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ทั้งงานที่เปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความสามารถแต่ไม่มีเวที และผู้ที่เข้ามา Work Shop หรือแม้กระทั่งเด็กไทยหลายๆคนที่ให้ความสนใจเรื่องของฟิงเกอร์สไตล์ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและขอขอบคุณผู้จัดที่เปิดช่องทางการสื่อสารให้หลายๆคนได้รับรู้

น่าเสียดายที่ไม่ได้ไปชมคุณทักษ์ เหล็กกล้า หรือ เดอะตู่ ฟิงเกอร์สไตล์ชาวไทย, Robert Uno พ่อมด ฟลาเมงโก เพราะไปไม่ทัน แต่อย่างไรก็ตาม เขาทั้งสองคนก็เป็น 2 คนไทยที่ได้มีโอกาสขึ้นแสดงความสามารถให้โลกได้รู้แล้วว่า ฝีมือกีตาร์ของคนไทยก้ไม่ได้แพ้หรือด้อยไปกว่าชาติไหนในโลกเลย

 

 

walk away from here