นับเป็นที่สุดแห่งความประทับใจกับคอนเสิร์ตแจ๊สแห่งปี Diana Krall Wallflower World Tour Live in Bangkok 2016 จากศิลปินชื่อดังระดับโลก Diana Krall

นับเป็นที่สุดแห่งความประทับใจกับคอนเสิร์ตแจ๊สแห่งปี Diana Krall Wallflower World Tour Live in Bangkok 2016 จากศิลปินชื่อดังระดับโลก Diana Krall (ไดอานา ครอลล์) ซึ่งจัดโดย บริษัท คอร์โน แอนด์ แนช จำกัด และ บริษัท วิจิ คอร์ป จำกัด เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คอนเสิร์ตครั้งนี้ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงเป็นอย่างดีเยี่ยม แฟนเพลงต่างมารอคอยกันที่หน้าสถานที่จัดงาน รอยัล พารากอน ฮอลล์ รวมทั้งให้ความสนใจกับมุมถ่ายภาพกับรูปของ ไดอานา ครอลล์ ตั้งแต่ก่อนคอนเสิร์ตจะเริ่ม รวมทั้งยังมีแขกผู้มีเกียรติและบุคคลผู้มีชื่อเสียงมากมายที่มาร่วมชมคอนเสิร์ตครั้งนี้ อาทิ วิลักษณ์ โหลทอง ประธานกรรมการ บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน), เมย์ มาริษา ฮอร์น โหลทอง เจ้าของแบรนด์มาริฮอร์น, วรรคสร โหลทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามสปอร์ต ดิจิตอล มีเดีย จำกัด, พชระ วิจิตรานนท์ กรรมการบริหาร บริษัท วิจิ คอร์ป จำกัด, พิชัย จิราธิวัฒน์, สุทธิธรรม จิราธิวัฒน์, แพทย์หญิงพักตร์พิไล ทวีสิน, มารุต มัสยาวนิช, นภ พรชำนิ, แอฟ ทักษอร และ สงกรานต์ เตชะณรงค์, เหล่านางแบบสาว อุ๋ม บี น้ำทิพย์ และ แจน, โรจน์ ควันธรรม, กุญแจซอล, วี ไวโอเลต, แพท พัสสน, นันทนา บุญหลง, เอ๋ เทเรซา, เกรียงไกร อุณหะนันทน์, ดีเจนิกกี้ ฯลฯ พร้อมด้วยแฟนเพลงทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ มีทั้งเดินทางบินมาจากต่างประเทศเพื่อเข้าชมคอนเสิร์ตครั้งนี้โดยเฉพาะ

รอคอยกันไม่นานนัก ไดอานา ครอลล์ พร้อมด้วยทีมนักดนตรีของเธอก็ออกมาให้ทุกคนได้ดื่มด่ำไปกับมนต์เสน่ห์แห่งร้องเสียงและการเล่นเปียโนด้วยเพลงเพราะๆ อย่าง Deed I Do, Let’s Fall In Love, So Nice เธอกล่าว “ขอบคุณมากค่ะ” เป็นภาษาไทย ก่อนเล่าว่าเมื่อคืนก่อนได้ไปทานอาหารไทยแล้วชอบมาก รวมทั้งเธอก็ชอบเพลงที่เกี่ยวกับอาหาร พร้อมเริ่มเล่นเพลง Frim-Fram Sauce ของศิลปินรุ่นตำนาน Nat King Cole ต่อด้วยเพลงที่บรรเลงอย่างไพเราะแบบต่อเนื่องอย่าง How Deep Is the Ocean ที่ถูกนำมาคัฟเวอร์ในแบบฉบับของเธอเอง รวมทั้ง Simple Twist of Fate เพลงเก่าของ Bob Dylan

เพลงต่อมา Temptation ถือเป็นหนึ่งในช่วงไฮไลต์ของคอนเสิร์ต เมื่อ ไดอาน่า ครอลล์ เปิดโอกาสให้นักดนตรีแต่ละคนได้สลับกันโชว์ฝีมือ ทั้งมือกีตาร์, มือไวโอลิน, มือเบส และมือกลอง ได้อย่างน่าดูชม เรียกเสียงปรบมือจากคนดูอย่างกึกก้อง จากนั้นศิลปินสาวก็ขอโซโล่เดี่ยวด้วยการร้องและเล่นเปียโนในเพลง The Look of Love กับ Angel Eyes ได้อย่างละเมียดละไม จบเพลงนี้ นักดนตรีทุกคนกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งพร้อมเล่นเพลง California Dreamin’ หนึ่งในเพลงเด่นจากอัลบั้มล่าสุด ต่อเนื่องด้วยเพลงในชื่อเดียวกับงานชุดนี้ Wallflower อีกหนึ่งงานคัฟเวอร์จาก Bob Dylan ปิดท้ายด้วยเพลง Just You, Just Me ก่อนที่เธอและนักดนตรีทุกคนจะออกมายืนขอบคุณคนดูและลงจากเวทีไป

แน่นอนว่าทุกคนยังไม่ยอมให้ค่ำคืนสุดประทับใจจบลงแค่นี้ ต่างปรบมือและส่งเสียงให้ ไดอานา ครอลล์ ออกมาอีกครั้ง ซึ่งเธอและสมาชิกวงก็ออกมาตามเสียงเรียงร้องพร้อมเริ่มบรรเลงเพลง Desperado ผลงานของวง Eagles ที่เรารู้จักกันดี ตามด้วย 2 เพลงที่แต่งโดยท่านเซอร์ Paul McCartney อย่าง For No One กับ If I Take You Home Tonight ก่อนจะปิดท้ายคอนเสิร์ตอย่างแท้จริง ด้วยเพลงแจ๊สสุดคลาสสิก After You’re Gone ที่มาในเวอร์ชั่นที่โชว์ทักษะดนตรีกันอย่างเต็มที่กันส่งท้าย ไดอาน่า ครอลล์ ยกมือไหว้แบบเขินๆ ก่อนกล่าวว่า “ขอบคุณมากค่ะ” เป็นภาษาไทยอีกครั้ง แล้วโค้งอำลาพร้อมกับคณะนักดนตรีเป็นการจบคอนเสิร์ตที่สุดแสนประทับใจ… ส่งท้าย Diana Krall Wallflower World Tour Live in Bangkok 2016 คอนเสิร์ตแจ๊สระดับโลกที่สมบูรณ์แบบ เพราะยอดเยี่ยมทั้งการแสดงสดบนเวที ระบบเสียงและการจัดงาน

ที่มา :