หลังเขาได้ขึ้นแสดงโชว์ช่วงพักครึ่งในตำนานของการแข่งขัน Super Bowl LIX ที่เหล่าศิลปินทั่วโลกต่างใฝ่ฝัน ณ Caesars Superdome เมืองนิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา ในคืนวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ตลอดระยะเวลา 13 นาทีกว่าๆ เขารังสรรค์โชว์ แรปเพลงติดต่อกันไม่หยุดทั้งหมด 10 เพลง และยังได้ศิลปินรับเชิญมาสร้างสีสันให้กับงานนี้อย่างคับคั่ง
 

 

Kendrick Lamar เปิดโชว์ Super Bowl LIX ด้วยการปรากฏตัวของ Samuel L. Jackson ที่แสดงเป็น Uncle Sam เพิ่มสีสันให้กับโชว์ได้เป็นอย่างดี ก่อนจะเปิดโชว์ด้วยบางส่วนของเพลง “GNX” และเริ่มต้นแรปจริงจังกับเพลงสุดฮิตจากอัลบั้มเดียวกันอย่าง “squabble up” ต่อด้วยเพลงดังที่ขาดไม่ได้ในโชว์ครั้งนี้อย่าง “HUMBLE.” ที่ทุกคนในสนามพร้อมใจกันร้องตามเสียงดัง ต่อด้วย “DNA.”, “euphoria”, “man at the garden”, “peekaboo” ตามด้วยเซอร์ไพรส์กับการปรากฏตัวของสาว SZA ในเพลง “luther” และ “All the Stars” เพลงประกอบภาพยนตร์ Black Panther ที่แฟนๆ หลายคนคิดถึง และนับว่าเป็นการแสดงเพลงนี้คู่กันครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2019 เลยทีเดียว

 

ในช่วงหลังของโชว์ เร่งจังหวะด้วย “Not Like Us” ที่เพิ่งคว้ารางวัล Record of the Year และ Song of the Year จาก 2025 Grammy Awards ไปหมาดๆ และได้ Serena Williams มาเต้นสนุกๆ ปิดท้ายด้วยการตะโกนเรียก ‘MUSTARD’ ทำเอาแฟนๆ เฮลั่นสนาม กับเพลง “tv off” จบการแสดงพร้อมเสียงปรบมือดังลั่นกึกก้อง พร้อมใจกันชื่นชมการแสดง Super Bowl ในครั้งนี้ ทั้งโปรดักชั่น เหล่าแดนเซอร์ที่มาในธีมขาว น้ำเงิน แดง และมุมกล้องที่เหมาะเจาะลงตัว ทำให้การแสดงในครั้งนี้เพอร์เฟกต์ไร้ที่ติ และจะเป็นตำนานให้กล่าวขานกันไปอีกหลายปี

 

Kendrick Lamar ได้เป็นแรปเปอร์และศิลปินฮิปฮอปคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้เป็นเฮดไลเนอร์ Super Bowl Halftime Show ถึง 2 ครั้ง โดยครั้งแรกในปี 2022 เขาได้ขึ้นโชว์กับ Dr. Dre, Snoop Dogg, Mary J. Blige และ Eminem จากการแสดงในครั้งนี้ Kendrick Lamar พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขานี่แหละที่สร้างตำนานการแสดง และจะถูกจารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ของวงการดนตรีโลกไปได้อีกนานแสนนาน สมศักดิ์ศรีแรปเปอร์แห่งทศวรรษนี้จริงๆ