7 เหตุผล ทำไมต้องไป มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 23

ไลฟ์สไตล์
7 เหตุผล ทำไมต้องไป มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 23

มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 23 กำลังจะกลับมารังสรรค์ความงดงามตระการตา ต้อนรับการเปิดกรุงเทพมหานครให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง กับสุดยอดการแสดงระดับโลกที่ทุกคนรอคอย

กลับมาอีกครั้งกับมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 23 เทศกาลประจำปีที่ร่ายสีสันให้กับ กรุงเทพมหานครมายาวนานกว่า 23 ปี กับการจัดสุดยอดศิลปะการแสดงและดนตรีระดับโลกมาให้ชาวไทยได้รับชม

1.จัดเต็ม 6 ชุดการแสดงสุดอลังการจากศิลปินคุณภาพชั้นนำระดับโลกและเทคโนโลยีการจัดแสดงสุดลํ้า
 

การกลับมา ของมหกรรมฯ ในปีนี้ มาพร้อมกับการจัดเต็ม 6 ชุดการแสดงสุดอลังการจากศิลปินคุณภาพชั้นนำระดับโลกและเทคโนโลยีการจัด แสดงสุดลํ้าที่ขนขบวนมาร่วมเฉลิมฉลองเปิดเมือง ปลุกกรุงเทพเมืองฟ้าอมรให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง ณ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ตั้งแต่ 18 พฤศจิกายน ถึง 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ดำเนินงานภายใต้มาตรการป้องกันควบคุมโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด และขอสงวนสิทธิ์ในการเข้าชมสำหรับผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบสองเข็มแล้วเท่านั้น

2.จัดขึ้นในคอนเซปต์ “A celebration of the enduring spirit of humankind”การเฉลิมฉลองจิตวิญญาณของมนุษยชาติ
 
 

สำหรับการจัดมหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 23 ในปีนี้ จัดขึ้นภายใต้คอนเซปต์ “A celebration of the enduring spirit of humankind” การเฉลิมฉลองจิตวิญญาณของมนุษยชาติ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองการ เปิดเมืองกรุงเทพมหานครในเดือนพฤศจิกายนนี้ ประกอบไปด้วยการแสดงบัลเลต์สุดคลาสสิก Swan Lake และ Nutcracker ที่ปีนี้ได้นำเทคโนโลยี 3 มิติมาร่วมผสมผสานในการแสดง ถือเป็นการแสดงที่มีเพียงจากคณะรัสเซียนมัลติมีเดียบัลเลต์เธียร์เตอร์แห่งเดียวในโลกเท่านั้น, การแสดงชุดใหม่ล่าสุด ‘Vivancos Live’ จากคณะลอสวิวานโกส สเปน, การแสดงโอเปร่าจากสองซุปเปอร์สตาร์ระดับโลก โจเซฟ คาเลญ่า (เทเนอร์) และ เซลีน เบิร์น (โซปราโน) , การแสดงเต้นฮิปฮอปชุด ‘Motion’ จากคณะคอมพานีซาร์บัท ฝรั่งเศส และปิดท้ายด้วยการแสดงจาก แคทเธอรีน เจนกินส์ นักร้องคลาสสิกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก เจ้าของรางวัล ‘The Biggest Selling Classical Artist of the Century’ จาก Classic FM เรียกได้ว่าเป็นงานมหกรรมแห่งปีที่ใคร ๆ ก็ห้ามพลาด

3.การแสดงบัลเลต์สุดคลาสสิก นำเทคโนโลยี 3 มิติมาร่วมผสมผสานในการแสดง เป็นการแสดงที่มีแห่งเดียวในโลกเท่านั้น
 
 
โดยมหกรรมฯ ในครั้งนี้ จะเปิดประเดิมด้วยการแสดงชุดแรก คือ การแสดงบัลเลต์สุดคลาคสิกในเรื่อง Swan Lake จากคณะรัสเชียนมัลติมีเดียบัลเลต์เธียร์เตอร์สุดยอดคณะบัลเลต์ชั้นนำของโลก คณะบัลเลต์เพียงหนึ่งเดียวที่นำเสนอเรื่องราวความรักสุดอมตะของเจ้าชายซิกฟรีดกับเจ้าหญิงหงส์ผู้เปี่ยมเสน่ห์นามว่าโอเด็ตต์ แสดงนำโดยนักบัลเลต์จากคณะบอลชอย ผสมผสานการแสดงบัลเลต์คลาสสิกกับฉากดิจิทัล 3 มิติ สุดยอดเทคโนโลยีมัลติมีเดียเข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว จัดแสดงขึ้นในวันที่ 18-19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

ต่อด้วยการแสดงบัลเลต์ต้อนรับเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึงในเรื่อง Nutcracker โดยคณะรัสเชียนมัลติมีเดียบัลเลต์เธียร์เตอร์อีกเช่นกัน พบสุดยอดทีมนักเต้นบัลเลต์จำนวน 44 คน ส่งตรงจากรัสเซียพร้อมฉากดิจิทัล 3 มิติ สุดตระการตา ร่วมถ่ายทอดเรื่องราวการเดินทางของคลาร่าและตุ๊กตาทหารนัทแครกเกอร์สู่ดินแดนแห่งเทพนิยาย ผ่านบทเพลงยอดนิยมของไชคอฟสกีผสานกับเรื่องราวของเวทมนตร์ในคืนวันคริสต์มาสอีฟ จัดแสดงขึ้นในวันที่ 20-21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

4.สุดว้าวกับหนุ่มสเปนรูปงามคณะวิวานโกส จะมาโชว์การเต้นอันเร้าใจจนเวทีต้องลุกเป็นไฟ
 

นอกจากการแสดงบัลเลต์ทั้ง 2 เรื่องแรกแล้ว การแสดงชุดที่ 3 ยังเป็นการกลับมาพบแฟนชาวไทยอีกครั้งของคณะลอสวิวานโกส จากประเทศสเปนกับการแสดงชุดใหม่ล่าสุด ‘Vivancos Live’ 7 หนุ่มสเปนรูปงามตระกูลวิวานโกส จะมาโชว์การเต้นอันเร้าใจจนเวทีต้องลุกเป็นไฟ อาทิ แท็ป ฟลาเมงโก ศิลปะการต่อสู้ประกอบกับฉาก ดนตรี และการออกแบบเวทีพร้อมแสงอันอลังการ โดยการแสดงในครั้งนี้ได้รวมฉากเด็ดจากโชว์ 7Hermanos, Aeternum และ Born to Dance ไว้ด้วยกันอีกด้วย จัดแสดงขึ้นในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

5.พบกับสองดาวเด่นแห่งวงการโอเปร่า โจเซฟ คาเลญ่า (เทเนอร์) และเซลีน เบิร์น (โซปราโน) มารวมตัวกันสร้างความมหัศจรรย์
 

พร้อมตะลึงไปกับการแสดงชุดที่ 4 ที่คว้าสองดาวเด่นแห่งวงการโอเปร่า โจเซฟ คาเลญ่า (เทเนอร์) และเซลีน เบิร์น (โซปราโน) มารวมตัวกันสร้างความมหัศจรรย์เพื่อการแสดงครั้งหนึ่งในชีวิต ร่วมกับคอนสแตนติน ชูดอฟสกี วาทยกรเจ้าของรางวัลมากมาย โปรแกรมจัดขึ้นสำหรับงานมหกรรมฯ ครั้งนี้โดยเฉพาะในวันที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564

6.พบกับศิลปะการต่อสู้ผ่านการเต้นฮิปฮอปเป็นหนึ่งในรูปแบบศิลปะสมัยใหม่ที่น่าตื่นเต้น น่าทึ่ง และสร้างสรรค์ที่สุด 
 

ตื่นตาตื่นใจกับการแสดงที่จะท้าทายแรงโน้มถ่วง ผนวกกับความแม่นยำในทุกการเคลื่อนไหว จากการแสดงชุด ‘Motion’ จากคณะ คอมพานี ซาร์บัท ประเทศฝรั่งเศส ที่ถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ผ่านการเต้นฮิปฮอป ผสมผสานกับการฉายภาพดิจิทัลแบบไดนามิก แสดงให้เห็นถึงศิลปะในการเต้นเบรกแดนซ์ที่แท้จริง จัดแสดงขึ้นในวันที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2564

7.ปิดท้ายการแสดงจาก แคทเธอรีน เจนกินส์ นักร้องคลาสสิกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก 
 

ปิดม่านเวทีด้วยการแสดงที่ใครก็พลาดไม่ได้ เพราะทุกคนจะได้ดื่มดํ่าไปกับเสียงเพลงจากสุดยอดนักร้องคลาสสิกที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก กับซุปเปอร์สตาร์ชาวเวลส์ เสียงเมซโซ-โซปราโน แคทเธอรีน เจนกินส์ (Order of the British Empire) เจ้าของรางวัล ‘The Biggest Selling Classical Artist of the Century’ จาก Classic FM เธอได้รับเชิญไปขับร้องในวโรกาส งานเฉลิมฉลองของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรหลายครั้ง ซึ่งการแสดงครั้งนี้อำนวยเพลงโดยแอนโทนี่ อิงกลิซ ซึ่งจะจัดแสดงส่งท้ายมหกรรมฯ ของปีนี้ ในวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2564
 
อย่าพลาด มหกรรมศิลปะการแสดงและดนตรีนานาชาติ กรุงเทพฯ ครั้งที่ 23 ICP 2021 - Bangkok's 23rd International Festival of Dance and Music ซื้อบัตรคลิก >> thaiticketmajor.com/icp2021